FTI-สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดมุมมองบนเวทีแถลงผลลัพัธ์เชิงสังคมของการนิคมอุตสาหกรรม SIA 2025

FTI-สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดมุมมองบนเวทีแถลงผลลัพัธ์เชิงสังคมของการนิคมอุตสาหกรรม SIA 2025
วันที่ 6 ตุลาคม 2568 ดร.ชนะ ภูมี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพือความยั่งยืน เปิดเผยถึงแนวคิดและกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) บนเวทีแถลงผลลัพัธ์เชิงสังคมของการนิคมอุตสาหกรรม SIA 2025 ภายใต้แนวคิด “เชื่อมโยงคุณค่า สู่อนาคตยั่งยืน Connecting Social Value to a Sustainable Future” และร่วมแลกเปลี่ยนเสวนา “การขับเคลื่อนเชิงนโยบาย สู่การตอบโจทย์นโยบายประเทศและระดับสากล” ความตระหนักและ Call for Action ระดับนโยบายในบทบาทการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมไทย ยกระดับโอกาสให้เป็นเครื่องจักรยกระดับกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ สิทธิประโยชน์ กลไกการสนับสนุน มาตรฐานข้อบังคับ และกลยุทธ์กธ์การปรับตัวของทุกทบทบาทของภาคอุตสาหกรรม จัดโดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ณ ห้องประชุมวิภาวดีบอลรูม C ชั้น L โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
มุมมองของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ต่อการส่งเสริมและสนับสนุนการเตรียมความพร้อมขององค์กรในภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายสู่แนวปฏิบัติ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ อาทิ นิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนการสร้างความร่วมมือ และการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น การร่วมมือกันในโครงการสระบุรี แซนด์บ็อกซ์ (Saraburi Sandbox Low Carbon City) เป้าหมายพัฒนาจังหวัดสระบุรีสู่การเป็นเมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกในไทย โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์สู่ Net Zero 2050
และได้เน้นย้ำว่าการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน คือปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม การแก้ไขปัญหาน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้ใช้งานได้อย่างเพียงพอนั้น ขับเคลื่อนโดยอาศัยความร่วมมือและข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการน้ำภาคตะวันออก กลไกความร่วมมือ “PPPP” (Public Private People Partnership) ถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันเชิงบวก เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำในเขตอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะ ขยายผล การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยมีแผนขยายผลจากมาบตาพุดสู่พื้นที่ปราจีนบุรี ซึ่งจะดำเนินการผ่านการ เสริมสร้างความร่วมมือ กับเครือข่ายทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมีแผนงานในการ ขับเคลื่อน การบริหารจัดการของเสียภาคอุตสาหกรรมในอนาคต โดยมุ่งหวังให้ประสบการณ์เชิงบวกนี้เป็น ต้นแบบ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่อุตสาหกรรมต่อไป
Leave a comment