ฟุตพริ้นท์ (Footprint)
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint)

โครงการการจัดทำฉลากคาร์บอนสำหรับอุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมอื่นๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556

หลักการและเหตุผล

ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) เป็นการรายงานปริมาณก๊าซเรือนกระจก (ในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) ที่เกิดขึ้นตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการกำจัด ซึ่งถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยอุตสาหกรรมยางพารา และอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่มีการผลิตยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลก อีกทั้งเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเพื่อการส่งออกไปยังต่างประเทศ  ซึ่งมีการใช้พลังงานค่อนข้างสูงทั้งในการผลิตและบริโภค อีกทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยจำนวนมาก จึงควรมีการส่งเสริมให้วิเคราะห์ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคทราบถึงข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์อันเป็นการกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังทำให้ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมด้านพลังงาน และด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

วัตถุประสงค์

1. เพื่อจัดทำเอกสารประกอบการจัดทำฉลากคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์ยางพารา ผลิตภัณฑ์อาหาร และหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ

2. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการส่งออกสินค้ายางพารา อาหาร และหรือสินค้าอื่นๆ ของกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการปรับตัวกับมาตรการทางสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้า

กลุ่มเป้าหมาย

ภาคอุตสาหกรรมยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร และอื่นๆ ใน5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล)

ขอบเขตการดำเนินงาน

  1. จัดอบรมให้ความรู้ในเชิงลึกให้กับบุคลากรของสถานประกอบการนำร่อง
  2. ให้คำปรึกษาสถานประกอบการนำร่องในการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำบัญชีรายการสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ในการคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จำนวนไม่น้อยกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ (ประกอบด้วยสถานประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการในปี 2554– 2555 และ สถานประกอบการที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการ) โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองฉลากคาร์บอน จำนวนไม่น้อยกว่า 16 ผลิตภัณฑ์
  3. จัดสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินโครงการ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและผลการดำเนินงาน

ประโยชน์ที่จะได้รับ

  1. ผู้ประกอบการนำร่องได้รับความรู้ด้าน LCI, LCA และฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  2. ผู้ประกอบการนำร่องได้ทราบผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเตรียมความพร้อมต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
  3. ผู้ประกอบการนำร่องทราบแนวทางการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้พลังงานและนำไปสู่การลดภาวะโลกร้อนได้
  4. ผู้ประกอบการนำร่องมีความพร้อมสำหรับการขอรับรองผลและขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน)

ระยะเวลาดำเนินโครงการ

19 ก.พ. 2556 ถึง 16 ก.ย. 2556

ผู้ดำเนินการโครงการ

สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

หน่วยงานสนับสนุนโครงการ/งบประมาณ

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา

อัลบั้มภาพ