สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน ขอส่งข้อมูลสถานการณ์น้ำ ภาพรวมของประเทศ ประจำวันที่ 16 กันยายน 2568 เพื่อใช้ประกอบการติดตามเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง และส่งต่อข้อมูลให้กับสมาชิกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน ขอส่งข้อมูลสถานการณ์น้ำ ภาพรวมของประเทศ ประจำวันที่ 16 กันยายน 2568 เพื่อใช้ประกอบการติดตามเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง และส่งต่อข้อมูลให้กับสมาชิกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ประกอบด้วย
1. คาดการณ์สภาพอากาศ (ช่วงวันที่ 15-21 ก.ย. 68)
– วันที่ 15-16 ก.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง
– วันที่ 17-21 ก.ย. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก

2. ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ
– ปริมาณน้ำเก็บกักรวม 54,432 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 77% ของความจุรวม) ปริมาณน้ำใช้การได้ 30,893 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 65%)
– ปริมาณน้ำเก็บกัก น้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่าง (อ่างฯลำตะคอง ลำนางรอง ทับเสลา และคลองสียัด)

📢📢📢 3. พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษและพื้นที่ประสบอุทกภัย 📢📢📢
– ประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 17–23 ก.ย. 2568 เวลา 16.00–19.00 น.
พื้นที่เสี่ยง: ลุ่มต่ำริม แม่น้ำเจ้าพระยา – ท่าจีน – แม่กลอง รวมถึงชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำและเขื่อนชั่วคราว บริเวณ จ.สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
– มีระดับน้ำล้นตลิ่ง พบจำนวน 20 สถานี ในลุ่มน้ำโขง ชี ยม น่าน เจ้าพระยา ป่าสัก ท่าจีน รวมถึงคลองบางหลวงและแม่น้ำน้อย
– แม่น้ำเจ้าพระยา แนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง
– ลุ่มน้ำมูล – แม่กลอง – ภาคใต้ อยู่ในเกณฑ์ปกติ
– การปรับระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ ระดับน้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ร่วมกับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบโดยเร็ว

▶️ ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมป้องกันผลกระทบต่อการสัญจรและทรัพย์สิน

4. ข้อแนะนำสำหรับภาคอุตสาหกรรม
– ติดตามข้อมูลน้ำ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
– ตรวจสอบระบบระบายน้ำ และเตรียมเครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้
– ฝึกซ้อมแผนอพยพและป้องกันน้ำท่วม อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
– ประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานรัฐ นิคมอุตสาหกรรม และชุมชนใกล้เคียง

5. การเตรียมความพร้อมของภาครัฐ
– เปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์พายุ ณ กรมอุตุฯ การบูรณาการร่วมกับ ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ เฝ้าระวังพายุและแจ้งเตือนตลอด 24 ชม.
– กรมชลประทาน: เตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และพื้นที่อุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568

ที่มา: สทนช., กรมชลประทาน, กรมป้องกันและบรรเทาสาธาร