Water and Environmental Management

โครงการบริหารจัดการความปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรม (โครงการย่อยที่ 3 การลด เลิก การใช้วัตถุอันตรายจากภาคอุตสาหกรรม)

หลักการและเหตุผล

สารเคมีได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ชุมชน จนกระทั่งถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปริมาณการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับนโยบายการส่งเสริมด้านการลงทุนและนโยบายด้านการผลิตของภาครัฐส่งผลให้เกิดการขยายตัวของพื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ๆ มากมาย และผลจากการพัฒนาอุตสาหกรรมมักก่อให้เกิดปัญหามลพิษ โดยเฉพาะการใช้สารเคมีอันตรายของภาคอุตสาหกรรมในปริมาณมาก แต่ยังไม่มีแผนควบคุมการใช้งานสารเคมีที่มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการบริหารจัดการความปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายจากภาคอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสากล ให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนบรรลุเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากอันตรายของสารเคมีและวัตถุอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อภาครัฐในการประหยัดงบประมาณจากการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหรือการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบ และยังช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านความปลอดภัยแก่ภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย

วัตถุประสงค์

  • เพื่อศึกษาสถานการณ์การใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายของประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (European Union :EU) กลุ่มอาเซียน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือตามข้อตกลงตามพันธกรณีหรืออนุสัญญาต่างๆ
  • จัดทำแผนลด เลิกการใช้วัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความจำเป็นรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น

กลุ่มเป้าหมาย

ภาคอุตสาหกรรม ส่วนราชการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการด้านสารเคมีและวัตถุอันตราย

ผลการดำเนินงาน

ในการดำเนินโครงการดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 1,350,000 บาท มีระยะเวลาดำเนินการ 10เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 ซึ่งการดำเนินโครงการได้จัดทำแนวทางการลด เลิกการใช้วัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรมและนำมาประยุกต์ใช้กับสารเคมีที่เป็นกรณีศึกษาจำนวน 9 รายการ โดยมีข้อสรุปจากคณะผู้ดำเนินโครงการ ดังนี้ สารเคมีที่เสนอเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ดำเนินการลด เลิกการใช้ ได้แก่ C-pentaBDE C-OctaBDE และ PeCB สารเคมีที่คงไว้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ต้องมีการดำเนินการใดๆ ต่อไป คือ 1,3-butadieneและ Bis(2-ethylhexyl) phthalate (DEHP) สารเคมีที่เสนอเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จำกัดการใช้บางประเภท โดยผู้ประกอบการเสนอรายงานเพื่อพิจารณาผลกระทบในการลด เลิกการใช้ ได้แก่ สารกลุ่ม PFOS โครเมียมไตรออกไซด์ และแร่ใยหิน สารเคมีที่เสนอเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยดำเนินการลด เลิกการใช้และพิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้งใน 5 ปีข้างหน้า คือ Trichloroethylene(TCE)

ประโยชน์ที่จะได้รับ

  1. ทราบสถานการณ์ การใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายของประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศกลุ่ม EU กลุ่มอาเซียน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี หรือตามข้อตกลงตามพันธกรณีหรืออนุสัญญาต่างๆ
  2. แผนลด เลิกการใช้วัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความจำเป็นรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
  3. ผู้ประกอบการ มีส่วนร่วมและมีความรู้ ความเข้าใจในการลด เลิกการใช้วัตถุอันตราย และทราบแนวปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับดำเนินงานตามกรอบแผนงานลด เลิกการใช้วัตถุอันตรายภาคอุตสาหกรรม

ผู้ดำเนินการโครงการ

สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

หน่วยงานสนับสนุนโครงการ/งบประมาณ

สำนักควบคุมวัตถุอันตราย กรมโรงงานอุตสาหกรรม

ดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติม

อัลบั้มภาพ